รีวิว 10 หัวข้อที่ควรรู้ ในการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่ | เต่าแดง

July 29, 2017July 30, 2017 ai-impulse 20703 Views 10 หัวข้อที่ควรรู้ ในการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่, กีต้าร์ไฟฟ้าราคาถูก, วิธีการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่, เลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่

1o หัวข้อที่ควรรู้ ในการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่

ใครที่กำลังอยากได้กีต้าร์ไฟฟ้าสักตัวแต่ยังไม่รู้ว่าเราจะต้องคิดถึงปัจจัยอะไรบ้างในการประกอบการตัดตินใจในการซื้อ วันนี้ร้านเต่าแดงจะมาบอกถึง 1o วิธีการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่

โดยทั่วไปแล้วการที่เราจะเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสักตัวเราคงจะมีข้อสงสัยมากมายถึงข้อมูลต่างๆในการประกอบการตัดสินใจ ยิ่งโดยเฉพาะมือใหม่ด้วยแล้วข้อมูลและรายละเอียดต่างๆนั้นมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจว่าจะซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าแบบไหน วันนี้ร้านเต่าแดงจะมาบอกถึง 10 หัวข้อที่ควรรู้ ในการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่ ว่าเราจะต้องคิดถึงเรื่องอะไรบ้างในการซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสักตัว ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูด้วยกันเลย

1.งบประมาน (Budget)

เรื่องเงินควรจะเป็นเรื่องแรกที่เราควรจะคำนึงถึงในการซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสักตัว โดยเฉพาะน้องๆมือใหม่ที่ต้องขอเงินพ่อแม่หรือคนที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง เราควรจะตั้งงบประมาณไว้ก่อน จากนั้นถึงหาข้อมูลว่ามีกีต้าร์ไฟฟ้าตัวไหนที่ราคาอยู่ในงบประมาณของเรา สำหรับผู้ที่อยากได้กีต้าร์ไฟฟ้าไว้เล่นสนุกๆ คลายเครียด ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอามาเล่นจริงจังอะไร ก็อาจจะซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าที่มีราคาประมาณหลักพันบาทก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับใครที่อยากได้กีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับฝึกซ้อมหรือเล่นอย่างจริงจังก็อาจจะตั้งงบไว้สูงหน่อยสักหลักพันปลายหรือหมื่นต้นแล้วแต่ความสะดวก เพราะจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกีต้าร์บ่อยๆ และได้กีต้าร์ที่มีคุณภาพดีขึ้นมาอีกหน่อย เล่นได้ยาวๆ

2.ปิ๊กอัพกีต้าร์ (Pickup)

ปิ๊กอัพเป็นตัวที่บ่งบอกถึงคาแรคเตอร์และโทนเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้าตัวนั้น หลักแล้วปิ๊กอัพกีต้าร์ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ประเภทคือ ซิงเกิ้ลคอย (Single Coil) และ ฮัมบัคกิ้ง (Humbucking) ปิ๊กอัพซิงเกิ้ลคอย จะให้เสียงที่หวาน ใส คม เด้ง แบบกีต้าร์ Fender ปิ๊กอัพ ฮัมบัคกิ้ง จะให้เสียงแบบ หนา อิ่ม เสียงแตกดุดัน แบบกีต้าร์ Gibson ถ้ามือใหม่จิตนาการเสียงของปิ๊กอัพสองตัวนี้ไม่ออกให้คิดว่า ปิ๊กอัพแบบ ซิงเกิ้ลคอย จะให้เสียงแบบวง แทคทู คัลเลอร์ หรือ กรู๊ฟ ไรเดอร์ ให้ที่อยากได้กีต้าร์ไฟฟ้าไว้เล่นแนวป๊อป ฟั๊งก์ หรือบลู ก็น่าจะเหมาะกับกีต้าร์ไฟฟ้าที่มีปิ๊กอัพแบบ ซิงเกิ้ลคอย ส่วนใครที่ชอบเพลงร็อคแบบ บิ๊กแอส บอดี้สแลม ก็น่าจะเหมาะกับกีต้าร์ไฟฟ้าที่ใส่ปิ๊กอัพ ฮัมบัคกิ้ง แต่ก็จะมีกีต้าร์ไฟฟ้าหลายรุ่น ที่ใส่ปิ๊กอัพทั้งสองแบบ เพื่อจะทำให้กีต้าร์ตัวนั้นเล่นได้กว้างขึ้น เรื่องนี้ก็เป็นรสนิยมของผู้เล่นแล้วว่าจะเลือกกีต้าร์ไฟฟ้าที่มีปิ๊กอัพแบบไหน

3.ทรงของกีต้าร์ (Shape)

จริงอยู่ว่าเรื่องของทรงมีส่วนในการจูงใจผู้เล่นและเราควรจะเลือกทรงกีต้าร์ไฟฟ้าที่เราชอบเพราะจะทำให้เราอยากเล่นกีต้าร์ตัวนั้นบ่อยๆ แต่ก็จะมีเรื่องอื่นที่เราต้องมองด้วยร่วมด้วย เช่น รูปทรงของกีต้าร์ว่าเข้ากับตัวเราไหม หรือลองสะพายแล้วส่องกระจกดูว่ากีต้าร์ตัวนั้นเหมาะสมกับเรารึเปล่า ตัวใหญ่เกินไปไหม สรีระของกีต้าร์กับสรีระของเราเข้ากันไหม เวลาเราเล่นแล้วติดขัดรึเปล่า เพื่อให้กีต้าร์ตัวนั้นเหมาะกับเราจริงๆและอยู่กับเราไปได้นานๆ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

4.ทรงของคอกีต้าร์ (Neck Shape)

เรื่องหนึ่งที่คนมันมองข้ามไปคือ ทรงคอของกีต้าร์ที่เราเลือก ทรงของคอกีต้าร์ที่เหมาะสมนั้นทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น ถนัดมือมากขึ้นในการจับคอร์ด โซโล่ หรือลูกเล่นต่างๆ นอกจากทรงแล้วเราควรจะเลือกขนาดทรงของคอกีต้าร์ให้เหมาะกับขนาดมือของเราด้วย คอของกีต้าร์ไฟฟ้านั้นมีมากมายหลายทรง เช่น ทรงV , ทรงC , ทรงSoftV , 58s และอื่นๆอีกมากมาย เรื่องของฟิงเกอร์บอร์ดจะเป็นคอขาวหรือดำก็มือผลกับเสียงและความสวยงามด้วย เอาเป็นว่าเวลาเราไปลองซื้อกีต้าร์ก็ลองจับและลองเล่นดูแล้วเลือกเอาว่าคอแบบไหนเข้ามือเรามากที่สุด ฟิงเกอร์บอร์ดแบบไหนโดยใจเราที่สุด

5.ประเภทไม้ (Tonewood)

ไม้ที่นำมาทำกีต้าร์เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้กีต้าร์ตัวนั้นสมบูรณ์มากขึ้น ไม้นั้นมีผลต่อโทนเสียงของกีต้าร์และความสวยงามของกีต้าร์ ในกีต้าร์ที่มีราคาแพงจะค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเลือกไม้มาทำกีต้าร์ไฟฟ้ามากๆ แต่ในสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นนั้นควรจะรู้แค่ว่าไม้ที่นำมาทำกีต้าร์ตัวที่เราจะซื้อนั้นเป็นไม้อะไรก็พอ ไม้ที่นิยมนำมาทำกีต้าร์ที่วางขายตามท้องตลาดโดยมากแล้วจะมีอยู่ไม่กี่ประเภท เช่น ไม้เอลเดอร์(Alder) , ไม้แอช (Ash) , ไม้เมเปิ้ล (Maple) , ไม้มาฮอคกานี (Mahogany) , ไม้โรสวู้ด (Rosewood) , ไม้อีโบนี (Ebony) โดยไม้แต่ละแบบจะนิยมนำไปทำกีต้าร์ในแต่ละทรง เช่น ไม้เอลเดอร์ ไม้แอช จะนิยมนำไปทำบอดี้ของกีต้าร์ทรง สตราโคาสเตอร์ แบบยี่ห้อ Fender ไม้มาฮอคกานี จะนิยมนำไปทำบอดี้กีต้าร์ทรง เลสพอล แบบยี่ห้อ Gibson ไม้เมเปิ้ล ไม้โรสวู้ล ไม้อีโบนี จะนิยมนำไปทำคอของกีต้าร์หรือฟิงเกอร์บอร์ด

6.น้ำหนักของกีต้าร์ (Weight)

น้ำหนักมีส่วนสำคัญไม่แพ้จุดอื่นๆ เพราะถ้าเราเลือกกีต้าร์ที่มีน้ำหนักมากๆเวลาที่เราสะพานเล่นนานๆอาจทำให้มีปัญหาปวดหลังได้ ควรเลือกกีต้าร์ที่มีน้ำหนักพอประมานให้เข้ากับขนาดรูปร่างของเรา จะทำให้การเล่นกีต้าร์ของเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เล่นได้นานขึ้น

7.ยี่ห้อ (Brand)

ยี่ห้อของกีต้าร์เป็นอีกอย่างที่จะบอกถึงคุณภาพของกีต้าร์ตัวนั้นๆได้ดี ยี่ห้อที่มีชือเสียงมานานนั้น ก็จะมั่นใจได้ในคุณภาพของชิ้นงาน เช่น Fender , Gibson , Ibanez แต่กีต้าร์พวกนี้จะมีราคาสูง ในท้องตลาดสมัยนี้มีกีต้าร์ไฟฟ้าราคาไม่แพงที่เริ่มเป็นที่รู้จักมากมาย และเป็นกีต้าร์ที่ทำตัวงานออกมาได้ดี และใช้ได้จริงอีกด้วย เช่น Mclorence , Cleven , Kazuki และอีกมากมาย เป็นกีต้าร์ราคาไม่แพงมีคุณภาพดี ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่

8.สายกีต้าร์ (String)

สายกีต้าร์เป็นส่วนประกอบหลักของกีต้าร์ไฟฟ้า การเลือกใช้สายให้เหมาะสมกับกีต้าร์ก็มีความสำคัญ โดยมากแล้วสายที่ติดมากับกีต้าร์นั้นจะเป็นสายที่ไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะฉะนั้นเราจึงควรซื้อสายกีต้าร์เปลี่ยนใหม่เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น สายกีต้าร์ไฟฟ้านั้นก็มีหลายขนาดและหลายแบบ ส่วนเราจะเลือกขนาดไหนนั้นก็ต้องดูว่าความสูงของสายกับเฟรตของกีต้าร์เรานั้นมีมากน้อยแค่ไหนเรื่องนี้เราสามารถปรึกษากับช่างซ้อมกีต้าร์ประจำร้านที่เราไปซื้อหรือช่างซ้อมกีต้าร์ใกล้บ้านเรา ในเรื่องของชนิดของสายนั้นมีทั้งแบบธรรมดาและสายเคลือบ สายธรรมดาจะมีอายุการใช้งานไม่นานมากขึ้นอยู่การดูแลรักษาของผู้เล่น แต่สายเคลือบจะมีอายุการใช้งานมีมากกว่าแต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่าตามไปด้วย อันนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานของผู้เล่นได้เลย

9.ของแถม (Bonus)

ของแถมเป็นอีกอย่างที่แบรนด์กีต้าร์ไฟฟ้าราคาถูกหรือร้านขายเครื่องดนตรีสมัยนี้แข่งกันทำการตลาด ผู้ที่ได้ประโยชน์คือผู้ที่ซื้อกีต้าร์อย่างเรา เราควรจะเช็คว่ากีต้าร์ที่เราจะซื้อมีของแถมอะไรบ้าง เพราะจะทำให้เราลดค่าอุปกรณ์บางอย่างไปได้ เช่น บางร้านอาจแถม สายแจ๊ค ปิ๊ก สายสะพาย กระเป๋ากีต้าร์ หรืออาจจะมีมากกว่านั้น ของแถมจุดนี้จะทำให้เราคุ้มค่ามากขึ้น และไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ต่างๆเพิ่ม

10.การเซ็ทอัพกีต้าร์ (Set up)

การเซ็ทอัพกีต้าร์นั้นมีความสำคัญเพราะจะทำให้กีต้าร์ไฟฟ้าตัวนั้นมีความเหมาะสมกับตัวเรามากขึ้นไปอีก เมื่อเราไปซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสักตัวควรจะถามว่าที่ร้านเขามีบริการเซ็ทอัพไหม เพราะกีต้าร์บางตัวที่มีมาจากโรงงานอาจจะมีข้อบกพร่องบางอย่างที่หลุดรอดการตรวจเช็คมา ทำให้อาจจะต้องมีการเซ็ทอัพเพื่อให้กีต้าร์ตัวนั้นสมบูรณ์มากขึ้น หรือกีต้าร์ไฟฟ้าตัวนั้นอาจมีความสูงหรือต่ำของสายที่มากเกินไปทำให้เราเล่นยาก การเซ็ทอัพจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ในบางร้านก็จะมีบริการเซ็ทอัพฟรีเมื่อเราซื้อกีต้าร์ที่ร้านนั้นด้วย ก็จะทำให้เราประหยัดเงินและได้กีต้าร์ที่เหมาะกับเราจริงๆ

ทั้งหมดคือ 10 หัวข้อที่ควรรู้ ในการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับมือใหม่ที่กำลังจะซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าก็ลองใช้ข้อมูลเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าดูนะครับ สุดท้ายนี้อย่าลืมนะครับว่า การฝึกซ้อมเป็นหน้าที่ของคุณ แต่ถ้าเรื่องเครื่องดนตรีเป็นหน้าที่ของ เต่าแดง!!

ซื้อกีต้าร์ไฟฟ้า ที่ไหนดี

ร้านเต่าแดง อยู่จังหวัดนครปฐม ทางรัานมีบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงบ้านท่าน ค่าจัดส่ง ฟรี!!

** ติดต่อ สั่งซื้อ หรือ สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ คลิกเลย!!

1.มาซื้อสินค้าด้วยตัวท่านเอง ที่ร้าน เต่าแดง อยู่แถว ม.ศิลปากร นครปฐม
2.สอบถาม/สั่งซื้อสินค้า Facebook:https://www.facebook.com/messages/taodang
3.สอบถาม/สั่งซื้อสินค้า Line Official : @taodang (อย่าลืมตัว @ นะครับ) หรือ ที่ลิ้งนี้ http://line.me/ti/p/%40taodang
4.โทรสั่งซื้อ Tel.097-017-9500 (ติดต่อ โจ เต่าแดง)
5.สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ https://taodangmusic.com