วิธีเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง สำหรับใครที่กำลังอยากซื้อกีตาร์ตัวแรกแต่เลือกไม่เป็นเดี๋ยวพี่เต่าช่วยแนะนำให้ ! (อ่านจบซื้อเป็นแน่นอน) l เต่าแดง

June 11, 2017July 29, 2017 ai-impulse 133857 Views Buy Acoustic guitar, วิธีเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง, สอน 10 หัวข้อที่เราต้องรู้ ก่อนเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง

สวัสดีผู้ติดตามทุกท่านนะครับ วันนี้พี่เต่าก็มีเนื้อหา สาระดีๆมาฝากพี่ๆน้องๆทุกคนอีกเช่นเคยนะครับ กับคำถามที่มาจากผู้ที่อยากจะเริ่มเล่นกีต้าร์โปร่งสักตัว แต่ไม่เคยมีคววามรู้มาก่อนเลยว่า มีวิธีดู หรือเลือกซื้อกีต้าร์อย่างไร หรือว่าแค่ดูใช้แล้วเท่ ชอบ หรือบางคนอาจจะเพราะว่า คนนู้นบอกว่าดี คนนั้นบอกว่าเด็ด ก็ซื้อๆกันไป แต่จริงๆแล้วพี่เต่าอยากจะบอกว่า มันมีมากกว่านั้นเยอะเลยครับ วันนี้พี่เต่าก็เลยจะมา “สอน 10 หัวข้อที่เราต้องรู้ กับ วิธีเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง” เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้แก่ผู้ที่สนใจ ได้ลองศึกษากันดูนะครับ^^

วิธีเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้น หัดเล่นกีต้าร์

พี่เต่าเชื่อว่า ทุกคนมักมีครั้งแรกเสมอ สำหรับการเลือกซื้อกีต้าร์ครั้งแรกของพี่เต่านั้นบอกเลยวว่า มั่วมากๆครับ คิดแค่ว่า แค่มีไม้กับสาย จะรุ่นไหน ตัวไหนก็ดีดได้เหมือนๆกัน แต่จากประสบการณ์ต่างๆ ก็ทำให้รู้เลยว่า แค่นั้น ยังไม่พอแน่นอน เลยอยากจะแชร์ข้อมูลที่มาจากประสบการณ์จริงที่เคยเจอมาเลยครับ ซึ่งค่อนข้างเยอะมาก แต่พี่เต่าก็คัดมาให้เหลือเพียง 10 ข้อเท่านั้นกับ วิธีเลือกซื้อกีตาร์โปร่ง เรียกว่าเอาไว้ต่อกรกับร้านขายกีต้าร์ ทั่วไปได้เลย จะมีอะไรบ้างตามกันมาเลยครับ >>>

1.งบประมาณ (budget )

: ต้องบอกเลยว่า ในเรื่องนี้เป็นส่วนที่ค่อนข้างสำคัญเลยนะครับ เพราะว่า งบ ที่เราจำกัดไว้ในการ เลือกซื้อกีต้าร์ จะเป็นการกำหนดขอบเขต ของคุณภาพกีต้าร์ที่เราต้องการ ซึ่งก็เป็นไปตามความจรริงของโลกนี้อยู่แล้วครับ ถ้าหากว่าเราตั้งงบไว้ไม่สูงมาก ก็อาจจะได้กีต้าร์ที่อยู่ในระดับเริ่มต้น เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มสนใจ หรืออาจจะยังไม่แน่ใจว่าจะชอบเล่นกีต้าร์จริงๆหรือเปล่า ก็อาจจะลองเลือกดูรุ่นที่ราคาไม่สูงมากเพื่อจะได้ไม่มีเสียดายทีหลังเนาะ สำหรับคนที่เล่นเป็นแล้ว หรือมั่นใจล่ะว่าสายนี้ใช่แน่นอน อยากได้กีต้าร์ชเจ๋งๆ คุณภาพดีๆสักตัว ก็จัดหนักไปเลยครับไม่ต้องเสียดายตังค์ ถือว่าจบทีเดียวเล่นยาวๆกันไปเลย

2.กีต้าร์โปร่งหรือกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าดี? (Acoucstic guitar and Acoustic Electric guitar)

: อีกหนึ่งหัวข้อที่ค่อนข้างน่าสนใจครับ คือ ไม่รู้ว่าจะซื้อเป็นกีต้าร์โปร่งธรรมดาหรือโปร่งไฟฟ้าดี ก่อนอื่นก็ต้อง มีความรู้กันสักนิดนึงนะครับว่า กีต้าร์โปร่งกับกีต้าร์ไฟฟ้าเนี่ยมันต่างกันยังไง ง่ายๆเลยครับ กีต้าร์โปร่งธรรมดาก็หน้าตาทั่วๆไปนี่แหละครับ ส่วนกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าก็หน้าตาแบบเดียวกันเลยครับ แต่จะต่างที่จะมีปิ้กอัพ (pickups) หรือ คอนแทค แล้วแต่คนจะเรียกเลยครับ ซึ่งจะทำหน้าที่ เป็นตัวขยายเสียงจากกีต้าร์ไปออกแอมป์หรือลำโพง ซึ่งหลักการทำงานของมันก็คือ จะแปลงการสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ เป็นสัญญานไฟฟ้าแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงออกแอมป์นั่นเอง แทนที่จะต้องเอาไมค์มาจ่อตรงกีต้าร์เหมือนสมัยก่อน พอมีเจ้าตัวนี้ ก็สบายเลยครับ ส่วนเราจะเลือกซื้อแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับโอกาสในการใช้งานเนาะ ถ้าจะเอาไว้เล่นชิวๆอยู่บ้านหรือปาร์ตี้เล็กๆ ก็เป็นโปร่งธรรมดา แต่ถ้าจะนำไปใช้เล่นคอนเสิร์ต หรือเล่นเป็นนักดนตรีอาชีพตามร้านอาหาร หรือว่าอยากจะเล่นแบบเสียงดังๆ ก็เป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าไปเลย ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อในการ เลือกซื้อกีตาร์โปร่ง ครับ^^ แต่ถ้าหากว่ามีกต้าร์โปร่งอยู่แล้ว อยากจะทำให้เป็นโปร่งไฟฟ้า ก็แค่ติด ปิ้กอัพเพิ่มเติมก็ได้ครับ แล้ววแต่ความชอบเลย

3.รูปทรงของกีต้าร์ (Shape)

: ทรงของกีต้าร์ ก็มีค่อนข้างเยอะมากๆนะครับ แต่ทรงหลักๆ ที่คนนิยมใช้ และพบเห็นได้ทั่วไปจะมีอยู่ 3 ทรงครับ ได้แก่ ทรง D (dreadnought),GA (grand auditorium),OM (orchestra model)
- ทรง D (dreadnought) ถือเป็นกีต้าร์ทรงมาตรฐาน ที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่น มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่นสไตล์ Folk Music, American Country Music, เป็นต้น
  เน้นเล่นแบบตีคอร์ด Strumming ใครที่ต้องการ กีต้าร์โปร่ง ที่ให้ย่านเสียงที่หนา ชัดเจน มีความกังวาน แข็งแรง และมีพลัง กีต้าร์ทรง Dreadnought ตอบโจทย์ได้ดีมาก
- ทรง GA (grand auditorium) จะเป็นทรงได้รับความนิยมจากผู้เล่นอย่างกว้างขวาง ด้วยความที่ต้องการตอบโจทย์ผู้เล่นที่ชอบเล่นในแบบ Strumming หรือตีคอร์ด ที่ต้องการเสียงที่มีพลัง และมีเนื้อเสียงที่ใหญ่กังวาน
  สามารถเล่นได้ดี ทั้งในแบบ Finger-Picking และ Strumming
- ทรง OM (orchestra model) จะเป็นทรงที่มีขนาดเล่นที่เล็กกว่า 2 ทรงที่ผ่านมา เสียงจะออกใสๆ โน้ตจะค่อนข้างชัดกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นแบบ Finger-Picking ด้วยขนาดที่เล็กกว่า ความตึงสายจึงน้อยกว่า
  อาจจะทำให้สามารถจับคอร์ดได้ง่ายขึ้น ไม่เจ็บมือ

4.ขนาดของกีต้าร์ (Size)

: หลายคนคงมีปัญหาที่ว่า ตัวเองเป็นคนที่ตัวเล็กถ้าหากไปซื้อกีต้าร์ขนาดใหญ่ๆมาเนี่ย จะเล่นไม่ได้ จับคอร์ดไม่ถนัด เอื้อมไม่ถึง ซึ่งข้อนนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกข้อนึงครับ การที่เราจะเลือกซื้อกีต้าร์ที่เอาไว้เล่นสักตัวเนี่ย ก็ต้อง คำนึงถึงเรื่องของขนาดเช่นกัน ซึ่งขนาดของกีต้าร์นี่ก็มีหลากหลาย เช่น 41 นิ้ว, 40 นิ้ว, 39 นิ้ว ,36 นิ้ว และ 34 นิ้ว สำหรับคนที่ค่อนข้างซีเรียส เรื่องสรีระของตัวเองกับกีต้าร์ ก็ต้องเลือก ขนาดที่เข้ากับตัวเองจะดีกว่า หรือบางคนตัวเล็ก แต่อยากจะเล่นตัวใหญ่ก็ไม่มีปัญหาครับ ในตอนแรกเริ่ม อาจจะเล่นยาก จับไม่ถนัดหน่อย แต่ถ้าได้ใช้เวลากับมันฝึกฝนบ่อยๆ จนชินแล้ว คราวนี้ ไม่ว่ากีต้าร์ขนาดเท่าไหร่ ก็จะเล่นได้สบายๆเลยครับ

5.คอเว้า (Cutaway)

: เราอาจะเคยเห็นกีต้าร์บางตัว ที่เป็นตัวเต็มๆไม่มีอะไร แต่บางตัวก็มีส่วนเว้าเข้าไปในตัวของกีต้าร์ นั่นแหละครับที่เค้าเรียกกันว่า Cutaway ประโชน์ของมันก็คือ จะช่วยทำให้ เราเล่นเฟรต ที่อยู่ลึกๆ ที่เลยเข้าไปในตัวบอดี้นั่นเอง เอาไว้แบบโซ่โล่ เฟรตในๆ ลึกๆ รูปทรงแบบนี้จะช่วยได้ดีครับ แต่ก็จะมีข้อเสียนิดหน่อยก็คือ อาจจะทำให้กีต้าร์เสียเนื้อไม้ไปบ้าง ซึ่งจะส่งผลต่อเสียง ที่จะดังน้อยกว่า แบบตัวเต็มธรรมดา นั่นเอง ก็ลองดูนะครับ ว่าเราจะได้มีโอการใช้เฟรตลึกๆกันหรือเปล่า

6.ประเภทของไม้ที่ใช้ประกอบกีต้าร์โปร่ง (Tone woods)

: ก่อนที่เราจะเลือกซื้อกีต้าร์สักตัว จำเป็นที่เราจะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่า ไม้ที่ใช้ประกอบทำกีต้าร์โปร่งนั้น มีไม้ประเภทใดบ้างและที่สำคัญคือ ไม้ชนิดใด ให้โทนเสียงแบบใด เพราะไม้แต่ละชนิดต่างให้เสียงที่แตกต่างกันไม้บางประเภทให้เสียงคม/แหลม หรือย่านเสียงสูงโดดเด่น ไม้บางประเภทให้เสียงที่ทุ้ม เบสเยอะ ฟังรู้สึกอุ่นๆดังนั้น หากคุณสามารถเข้าใจในส่วนนี่ได้ คุณอาจจะได้กีต้าร์โปร่ง ที่ตรงตามความชอบของตัวคุณเอง โดยที่ไม้หลักๆที่ใช้ในการทำกีต้าร์จะแบ่งได้ 2 ประเภท คือ Laminate หรือไม้อัด ซึ่งก็จะมีแบ่งย่อยลงไปอีกว่า มีไม้อัดชนิดใดบ้าง ให้เสียงแบบไหน ก็เลือกเอาที่ชอบเลย และอีกประเภท คือ ไม้ Solid หรือ ไม้แท้ จะป็นไม้ที่ทำมาจากไม้ธรรมชาติเพียงแผ่นเดียวเท่านั้น ถือเป็นที่นิยมกันอย่างมากเพราะไม้ประเภทนี้ ยิ่งเล่นจะยิ่งมีการพัฒนาของเสียงกีต้าร์มากขึ้นไปอีก ซึ่งไม้ที่นำมาทำแต่ละชนิดก็จะให้เสียงที่แตกต่างกันไป และจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียว

7.สายกีต้าร์ (String)

: นอกจากไม้ หรือสภาพอื่นๆของกีต้าร์ ที่จะส่งผลต่อเสียงของกีต้าร์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็ คือ สายกีต้าร์ โยก่อนที่เราจะเลือกซื้อเนี่ย ก็ต้องดูก่อนว่าสายที่มากับตัวกีต้าร์นั้นเป็นสายแบบใด โดยทั่วไปตามร้านต่างๆ สายกีต้าร์ที่มาพร้อมกับตัวอาจจะเป็นสายที่มาจากโรงงาน ซึ่งเสียงอาจจะดรอปลงมา บางทีใช้ได้ไม่นานก็ขึ้นสนิม ต้องเสียตังเปลี่ยนใหม่อีก หรือ บางตัว ราคาอาจจะสูงกว่าหน่อยนึง แต่ได้สายอย่างดี แบรนด์ที่ค่อนข้างโอเค หรือเป็นสายเคลือบกันสนิม เล่นได้ยาวๆ ไม่ต้องซื้อสายเพิ่มก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกนึงได้เช่นกัน

8.หย่อง/หมุด/นัด (saddle/pin/nut)

: ถ้าเป็นกีต้าร์ที่ราคาไม่สูงมาก วัสดุที่นำมาใช้จะเป็นพลาสติก ส่วนกีตาร์ที่ราคาสูงหน่อย Nut/Saddle ก็อาจจะเป็นพวก กระดูก หรือ กระดูกเทียม หมุดก็อาจจะทำจากไม้ ซึ่งก็จะส่งผลต่อเสียงที่ได้ ถ้าเป็นกระดูเสียงก็จะออกใสๆ คมๆ ซัสเทนยาวๆ สึกกร่อนยาก

9.ของแถม (Bonus)

: สิ่งที่่เราอาจจะต้องถามเพิ่มเติมเลย คือ ของแถมที่มาจากโรงงาน รวมถึงของแถมที่ทางร้านได้ให้มาด้วย อย่างเช่นบางรุ่น อาจจะแถมเป็นกระเป๋าบุฟองน้ำหนาๆมาพร้อมกับตัวกีต้าร์ หรือทางร้านอาจจะแถมของแถมเพิ่มเติม เช่น กระเป๋า, สายสะพาย,ปิ้ก,ที่เก็บปิ้ก,ประแจขันคอ,สายแจ๊ค หรืออาจจะมีมากกว่านี้ ก็ลองถามดุนะครับว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า

10.การตั้งความสูงของสาย (Set up)

: ต้องบอกก่อนว่า กีต้าร์ทุกตัวจากโรงงาน เล่นยากอยู่แล้วครับ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องทำการ set up ปรับระดับความสูงระหว่าง สาย กับคอ ให้เตี้ยลงครับ ได้ง่ายสบายมือ โดยเฉพาะมือใหม่นะมาเจอกีต้าร์ที่ไม่ได้ Set up แล้วมาเล่น เนี่ย ร้องกันเป็นแถวๆเลยนะครับ เราก็ต้องถามทางร้านดูนะว่า เค้ามีบริการนี้หรือเปล่า รวมถึงการเช็คกีต้าร์ให้ด้วยครับ กีต้าร์ที่ซื้อไปจะต้องเล่นได้จริง ไม่มีปัญหาต่อการเล่น

มุมคำถาม !

Q : พี่เต่าครับ แล้วถ้าอย่างผม อายุ 16 -17 ปี สุง 165 นิ้วมือไม่ยาวมาก เพิ่งจะลองเล่นกีตาร์ พี่เต่าช่วย แนะนำกีตาร์สำหรับมือใหม่หัดเล่น ที่เหมาะสำหรับผมเป็นตัวไหนดีครับ ?

A : ถ้าลักษณะนี้ล่ะก็ พี่เต่าอยากลองแนะนำที่กีตาร์ทรง Om หรือ Ga ขนาด 40 นิ้วครับผม กลางๆ พอดีๆ หาร้านที่รับ Set Up กีตาร์เพื่อลดระยะความสูงของสายด้วย ก็น่าจะเป็นกีตาร์ที่เหมาะสำหรับเราเลยทีเดียวครับผม

Q : พี่เต่าครับ ผมอ่านในส่วนของเนื้อไม้ ที่กล่าวว่า ไม้ Laminate และ Top Solid แล้วเรายังรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนไม้แบบไหน พี่เต่ามี เทคนิคการเลือกซื้อกีต้าร์ สำหรับกรณีนี้มั้ยครับผม ?

A : ครับผม ในส่วนนี้จะเป็นรายละเอียดค่อนข้างลึกทีเดียว แต่มีจุดสังเกตุหลักๆอยู่ที่ บริเวณโพรงกีตาร์ ให้สังเกตุลายไม้ของตัวกีตาร์เลยครับ ถ้าลายไม้มันลึกพาดลงไปกับขอบโพรงกีตาร์ ก็พออนุมาณได้เลยว่ากีต้าร์ตัวนี้

เป็นไม้ Top Solid แน่นอน

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

Q : แล้วขนาดกับทรงจะต้องเฉพาะเจาะจงในสไตล์การเล่นกีตาร์ด้วยรึเปล่าครับแล้ว การเลือกกีตาร์ ให้เหมาะกับกับสไตล์การเล่นเราจะต้องดูอย่างไรบ้างครับ ?

A : ก่อนอื่นเลย ต้องดูแนวทางการเล่นของเราก่อนเลยครับผม เช่น ถ้าชอบการตีคอร์ด ร้องเพลงดังๆกับเพื่อนๆในห้องในวง ก็ดูกีตาร์ที่ทรงใหญ่ๆไว้เลย เช่น ทรง D ขนาด 41 นิ้ว

หรือเราชอบเล่นเกาเพลงเบาๆ หรือเล่นแนว Finger Style ก็มองหากีตาร์ขนาดกลางๆทรงกระชับๆ เช่น Ga หรือ Om ขนาด 39 หรือ 40 นิ้ว เพียงเท่านี้ตอบโจทย์แล้ว

Q : แล้วพี่เต่ามีร้านกีตาร์ดีๆแนะนำสำหรับมองหากีตาร์ดีๆแนะนำมั้ยครับ ?

A : ” ก็เต่าแดงยังไงเล่าาาาาาาาาาาาาาาา !!!! ”

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ สอน 10 หัวข้อที่เราต้องรู้ ก่อนเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง พี่เต่าว่าหลายคนที่รู้เนี่ย ถึงกับร้องอ๋อกันเลยทีเดียว คราวนี้เราก็จะมีวิธีการเลือกกีต้าร์ตัวโปรดกันแล้วนะครับ อาจจะช่วยให้เพื่อนๆ ไม่โดนร้านขายกีต้าร์ ต้มเอาได้ง่ายๆแน่นอนครับ และท้ายที่สุดครับ เมื่อเช็คทุกอย่างตามนี้แล้วนะ ก็ถึงเวลามาลองเสียงกันเลยครับ ว่ามันจะเพราะพริ้ง แจ่มแมว เฟี๊ยวฟ๊าวแค่ไหน ถ้าโดนใจแล้วก็จัดกันได้เลยครับ!!

>> ถ้าชอบ Content ดีๆ มีสาระ จากร้านเต่าแดง อย่าลืม Share ให้เพื่อนๆเราดูกันบ้างนะครับ ^^

** ติดต่อ สั่งซื้อ หรือ สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ คลิกเลย!!

1.มาซื้อสินค้าด้วยตัวท่านเอง ที่ร้าน เต่าแดง อยู่แถว ม.ศิลปากร นครปฐม
2.สอบถาม/สั่งซื้อสินค้า Facebook : https://www.messenger.com/t/taodang/
3.สอบถาม/สั่งซื้อสินค้า Line Official : @taodang (อย่าลืมตัว @ นะครับ) หรือ ที่ลิ้งนี้ http://line.me/ti/p/%40taodang
4.โทรสั่งซื้อ Tel.097-017-9500 (ติดต่อ โจ เต่าแดง)
5.สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ https://taodangmusic.com/th/